Special Chapter #ร่างกายต้องการอบอุ่น

14

Special Chapter



ตึกนิติศาสตร์ดูจะคึกคักและสนุกสนานกว่าทุกๆวัน เพราะวันนี้เป็นวันกำหนดการรับน้องวันแรกของคณะ เด็กปีหนึ่งหลายคนนั่งรวมกันที่ลานกว้างโดยที่มีรุ่นพี่สันทนาการอยู่รอบๆ คณะนี้ดูจะเป็นกันเองและไม่เคร่งเครียดเท่ากับคณะอื่นๆ ออกจะปล่อยสบายๆซะมากกว่า

“อุ่น ทางนี้ๆ” เสียงยูเรียกจากโต๊ะมุมๆหนึ่งของตึก ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไป เห็นอีกคนนั่งอยู่คนเดียวท่ามกลางกระเป๋าอีกสองใบเลยได้สงสัย

โยธาไปไหน

“มันกับไอ้เวย์ไปขนของช่วยน้องๆ เดี๋ยวก็มา” ยูตอบให้หลังจากที่เห็นว่าอุ่นมองซ้ายมองขวาเหมือนกับว่าหาเพื่อนเขาไม่เจอ พอได้ฟังเจ้าตัวก็พยักหน้ารับแค่นั้น

ยังประหยัดคำที่จะพูดกับพวกเขาเหมือนเดิมเลย

“อุ่นรอนานมั้ย” โยกลับมาแล้ว โดยที่เสื้อนักศึกษาเปียกไปด้วยเหงื่อ แถมใบหน้ายังชุ่มไปด้วยน้ำที่เพิ่งจะล้างมาอีกต่างหาก

“ไม่นานหรอก” พูดไปก็เอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองมาเช็ดให้อีกคนด้วย เล่นเอาคนมีแฟนนั่งนิ่งอ้อนอุ่นไม่หยุดจนเพื่อนหมั่นไส้แกล้งๆถีบไปหลายที แต่โยธากลับไม่สะทกสะท้านแถมยังถือโอกาสออเซาะอุ่นเพิ่มอีก

“เราต้องเอาบทความไปส่งก่อนนะ”

“ครับ เดี๋ยวผมไปรับ รออยู่หน้าตึกนะ” เมื่อเห็นว่าอุ่นกำลังจะลุกออกไป เวย์ที่คิดสนุกเลยได้ทีฟ้อง

“เมื่อกี้ไอ้โยแม่งมองน้องกั๊ก เด็กปีหนึ่งตางี้เยิ้มเชียวนะอุ่น โอ๊ย— กูเจ็บนะเว้ยโย”

“ปากมาก มึงอยากให้บ้านกูแตกหรอ”

“งั้นแสดงว่านายมองจริงๆงั้นสิ” เล่นเอาเงียบสนิทแต่เพื่อนสองคนกลับหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ไม่เห็นใจไอ้โยธาคนนี้ที่หน้าซีดซะอย่ากว่าไก่ต้มในข้าวมันไก่ซะอีก

“ถึงมองเราไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้วนี่นา” คนตัวเล็กเอื้อมมือมาขยี้หัวอีกคนเล่นให้ได้คลายกังวล เขาไม่ได้เอาเรื่องแบบนี้มาคิดเล็กคิดน้อยหรอก เชื่อว่าโยเองคงจะไม่ทำเขาเสียใจ เพราะที่ผ่านมาปีหนึ่งที่คบกัน

ยังไม่เคยเห็นอีกคนไปมีคนอื่นอย่างที่เพื่อนหลายๆคนเตือนเขาไว้เลย

หรือบางทีระยะเวลาแค่นี้ก็ไม่ควรด่วนสรุปเร็วไป

“โถ่ ไม่เด็ดขาดเลยว่ะอุ่น ถ้าเป็นนัมน่ะ กระบาลกูไม่เหลือที่ให้เขกแล้ว” เวย์พูดสร้างเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันไปคุยกับยูเรื่องน้องปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่ ส่วนคนที่คิดว่าตัวเองมีความผิดก็นั่งหน้าหงอยๆ หูลู่หางตกอยู่อย่างเซ็งๆ แถมยังไม่ปล่อยมือจากเขาด้วย

เราต้องไปส่งงานนะโยธา

“ปล่อยมือได้แล้ว เดี๋ยวส่งงานไม่ทัน”

“เดี๋ยวรีบไปรับนะ รีบลงมาล่ะ อยากกอดจะแย่แล้ว”

“รู้แล้วน่า”

เราก็อยากกอดแล้วเหมือนกันแหละ

:)


บรรยากาศการพูดคุยกันฆ่าเวลาของพวกเขาทั้งสามคนที่ตอนแรกก็คุยไปเรื่อยเปื่อย จนสุดท้ายคนกังวลกลับเป็นไอ้เวย์ที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียดกับปัญหาชีวิตคู่ทันบอกว่ากำลังเผชิญอย่างใหญ่หลวง

ซึ่งหนีไม่พ้น ...

“เมื่อไหร่น้องจะสิบแปดวะมึง กูเหนื่อยจะทนแล้วนะโว้ย ลูกรักกูไม่ต้องการมือกูแล้ว มันต้องการแม่มันอ่ะ พวกมึงเข้าใจกูใช่มั้ย”

นั่นแหละครับ ปัญหาของมัน

กามไม่มีใครเกินจริงๆ

“ว่าแต่มึงเถอะโย อย่าหาว่าพวกกูงั้นงี้เลย กับอุ่นน่ะ มึง...” สุดท้ายประเด็นก็เปลี่ยนมาที่เขาจนได้ อีกแล้วสิวะ แม่งเบี่ยงมาตลอด

เฮ้อ

“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

“ห้ะ !!?”

ครับ

อ่านไม่ผิด ฟังไม่ผิดกันหรอก

“มึงล้อเล่นป่ะเนี่ย”

“ไม่ได้ล้อเล่น”

“ไอ้โย วิญญาณไอ้สมศักดิ์พ่อพระพุธธรรมเข้าสิงมึงหรอ ออกมาจากเพื่อนกูนะเว้ย” ยูรีบเข้ามาเขย่าร่างเขาราวกับว่าสิ่งที่มันพูดออกมามันคิดแบบนั้นจริงๆ

“ปีนึงไม่ทำอะไรเลย เข้าออกห้องเค้าไม่รู้กี่ครั้ง นี่มึงเป็นใครเนี่ย” เวย์เองก็มาเขย่าเสริมอีกคน เออ เอาเข้าไป เพื่อนกูแต่ละคน

อะไรกันวะ แค่จะเป็นคนดีบ้าง ทำไมไม่มีใครเข้าใจเลยล่ะ

“ทนได้หรอวะมึง”

“เป็นกู กูไม่ทนแล้วนะ”

คือเอาจริงๆแล้วน่ะนะ ...

“เออ กูอยากรักเขาแรงๆ รักเขาทั้งคืน เอาให้ลุกขึ้นมาบอกรักกูกลับไม่ได้ พอใจพวกมึงยัง”

ไอ้เพื่อนเวร

-////-



“วันนี้ซื้อข้าวผัดกุ้งมาหรอ มีอย่างอื่นมั้ยอ่ะ” เสียงของอุ่นไม่ได้เข้าหูคนที่เดินตามหลังเท่าไหร่ เมื่อใจตอนนี้ไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว เสียงในหัวเหมือนตีกันอยู่ตลอดเวลาเรื่องของในกระเป๋ากางเกงที่เวย์เอาไว้ให้

อีกเสียงในใจก็บอกให้ทำ

แต่อีกเสียงในหัวก็บอกว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะใช้มันอยู่ดี

แน่สิ ...

เขาไม่ได้ใช้ของแบบนี้มานานเป็นปีแล้วนี่หว่า

“นายดูเงียบแปลกๆนะ ยังกังวลเรื่องที่คิดว่าเราจะโกรธอยู่หรอ”

“ป...เปล่าครับ”

“หรือว่าจะไม่สบาย” มือเล็กเอื้อมมาจับหน้าผากด้วยสีหน้าที่ดูจะห่วงใย ก่อนจะหันไปรีบไขกุญแจเพื่อจะเตรียมยาไว้ให้ แต่ทว่าพอประตูปิดลงเท่านั้น ตัวก็โดนดึงเข้าไปกอด พร้อมกับที่ริมฝีปากถูกประกบอย่างรวดเร็ว ไม่มีสัมผัสเด็กๆ อ่อนโยนเหมือนอย่างเคย

มันร้อนแรงจนแทบจะหลอมให้ตัวเขาเองละลาย

ตั้งหลักได้ก็ป้อนจูบกลับไปให้อีกคน แม้จะเงอะงะแต่นั่นเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้อารมณ์สับสนมันพลุ่งพล่านจนแตกสลายไป มีแต่ความปรารถนาและความหลงไหลจนแทบจะยั้งใจไว้ไม่ได้ ผละออกก็จูบซ้ำๆ ทำอยู่แบบนั้นเหมือนคนไม่รู้จักพอกับสิ่งที่ได้รับ

“อื้อออ พ...พอก่อน” อุ่นหายใจไม่ทันจนต้องดันหน้าคนที่กำลังจะทำต่อได้หยุดลง สติเริ่มกลับมาหลังจากที่หลุดหายไปเมื่อครู่

“ขอโทษนะอุ่น” ปากคนตัวเล็กบวกเจ่อน้ำตาคลอในเบ้า แม้จะติดเรทจนอยากจะจับอีกคนจูบอีกสักนาทีให้ชื่นใจแต่เขากลับต้องเบรกตัวเองเอาไว้

อดทนและรอคอย

ทำไมวันนี้มันทำยากจังวะ

“ฝืนตัวเองมากมั้ย”

“ครับ ?”

“เรารู้...” อุ่นพูดยิ้มๆ ก่อนจะดึงเขาเข้าไปจูบเบาๆ ก่อนประโยคถัดมาจะทำให้เส้นความอดทนของเขาขาดสะบั้นลง

ของที่เพื่อนนายให้มาน่ะ จะใช้ก็ได้ เราพร้อมแล้ว”


เสื้อผ้ากองใหญ่ที่ข้างเตียง สภาพที่นอนยับยู่ยี่จนแทบไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เสียงเพลงที่เปิดคลอไว้กลบเสียงร้องที่ดังไม่น้อย และบทรักที่เร่าร้อนระหว่างคนสองคนที่ยังดำเนินไปอย่างไม่รู้จุดจบจะไปสิ้นสุดตอนไหน แม้แอร์ในห้องจะทำงานแต่ดูท่าไฟราคะในตัวของคนทั้งคู่ยังลุกโชนอยู่ตลอดเวลา

ไม่มีท่าทีว่าจะดับลงง่ายๆ

“บ...เบาหน่อย” แม้จะบอกแบบนั้น แต่ร่างกายที่สนองกลับไปให้อีกคน ดูท่าจะไม่ใช่อย่างที่บอก

“เบาหน่อยหรือแรงอีกหน่อยครับ” พูดไปก่อนจะอัดสะโพกเบาๆช้าๆสลับกันแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ จนต้องลองทำไปเร็วสักทีสองทีแล้วก็จริงตามคาด

“ย...โย”

“ดูท่าอุ่นจะชอบให้ผมแรงมากกว่าเบานะ”

“ไม่ใช่”

“อุ่นชอบหรอครับ เวลาผมดุน่ะ หื้ม”

“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้น อ๊ะ เบาลงหน่อย !”

อดทนและรอคอยหรอ

ฝังลงดินไปได้เลยครับตอนนี้

หึๆ



#ร่างกายต้องการอบอุ่น



Talk:

RUN5555555555555555555555555555555555 ._.


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทที่สิบห้า (End) #เอยจะครองโลก